ผมและเธอบนทางเส้นขนาน

Aside

TukTarSubject: ผมและเธอบนทางเส้นขนาน ( น่ารักดี )

 
> >> > – ผมบอกว่าความรักก็เหมือนกับเส้นด้ายบาง ๆ หากขาดไปแล้ว ผูกอย่างไรก็มีปม
> >> > – เธอบอกว่าความรักเหนียวแน่นคงทนกว่านั้น มันเปรียบเสมือนผืนผ้ามากกว่า
> >> > แม้เส้นด้ายจะขาดไปสักเส้น ผ้าก็ยังเป็นผ้าได้อยู่
> >> > – ผมไม่พกมือถือ ด้วยเหตุผลว่า
> >พระนเรศวรทรงกู้เอกราชได้โดยไม่ต้องใช้เครือข่าย GSM
> >> > – เธอพกมือถือ 2 เครื่อง ด้วยเหตุผลว่า
> >ที่ไทยเสียเอกราชไปเพราะไม่มีเครือข่าย GSMใช้

> >> > – ผมใส่กางเกงตัวละ 129 บาท ด้วยเหตุผลว่า
> >จะยี่ห้ออะไรก็ปิดไอ้นั่นได้มิดเหมือนกัน
> >> > – เธอใส่กระโปรงราคาตัวละหลายพันบาท ด้วยเหตุผลว่า มันปลอดภัย
> >ถ้าเกิดไฟไหม้
> >> > กระโปรงที่เธอใส่ เนื้อผ้าจะไม่ละลายติดเนื้อผิวของเธอ

> >> > – ผมไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก อะไรจะมากกว่ากัน
> >แต่
> >> > ผมว่าขนมครก อ! ร่อย และถูกกว่าเป็นไหน ๆ
> >> > – เธอไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก อะไรจะมากกว่ากัน
> >แต่
> >> > เธอชอบกินพิซซ่า ด้วยเหตุผลที่ว่า ขนมครกบางร้านเท่านั้นที่อร่อ! ย
> >แต่พิซซ่าฮัท ทุกร้านมีมาตรฐานเดียวกัน

> >> > – ผมใช้ปากกาด้ามละ 5 บาท ด้วยเหตุผลที่ว่า ยังไงมันก็เขียนได้
> >และมันมักจะหายไป
> >> > ทุกครั้งก่อนที่ไส้จะหมด
> >> > – เธอใช้ปากกา ยี่ห้อ cross ด้วยเหตุผลที่ว่า
> >ยังไงมันก็เขียนติดกระดาษไม่ต้องสะบัดก่อนใช้
> >> > และไม่เลอะเทอะกระเป๋าเสื้อของเธอ

> >> > – ผมชอบทำงานอิสระ ทำตามจินตนาการของตัวเอง ไม่ต้องให้ใครบังคับ
> >ไม่ต้องผูกมัด กับระบบ
> >> > – บัตรตอกทำงานของเธอไม่เคยขึ้นตัวแดง เธอกลับค่ำทุกวัน
> >เพราะงานทำให้เธอมีระบบ
> >> > ระเบียบ และเห็นคุณค่าของชีวิต

> >> > – ผมรักตัวของผมเองมากกว่าใคร ๆ ด้วยเหตุผลว่า ไม่ว่าเราจะทำดีเพื่อใคร ๆ
> >> > มากมายขนาดไหนความสุขทางใจที่เราได้ ก็ได้กับตัวเอง
> >> > – เธอรักครอบครัวของเธอมากกว่าสิ่งใด ๆ ด้วยเหตุผลว่า ถ้าไม่มีพวกเขา
> >ก็คงไม่มีเธอเกิดมาให้ป่าวประกาศว่าฉันรักตัวฉันเอง

> >> > – คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่ผมว่า
> >หาดทรายจะแปรเปลี่ยนไปทุกครั้งตามคลื่นที่กระทบฝั่ง
> >> > แต่แม้จะเปลี่ยนอย่างไร ทรายก็ยังเป็นทราย
> >และคลื่นก็ยังเป็นคลื่นไม่เปลี่ยน
> >> > – คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่เธอว่า ไม่ว่าน้ำทะเลจะขึ้นจะลงอย่างไร
> >คลื่นก็ยังขยัน! ซัดกระทบฝั่ง

> >> > – ผมบอกว่าถ้าไม่มี “ความว่าง” แล้ว “ความมี” ก็ไร้ ความหมาย
> >เพราะความมีต้องวางลงบนความว่าง
> >> > – เธอบอกว่าถ้าไม่มี “ความมี” แล้ว “ความว่าง” จะมีประโยชน์อะไร
> >มันคงไร้ความหมายเพราะมีความมี ความว่างจึงก่อเกิดการเปรียบเทียบ

> >> > – คนอื่นบอกว่า ผู้หญิงรักผู้ชายจาก 0-100 แต่ผู้ชายรักผู้หญิงจาก 100-0
> >ผมแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายแค่ 0-1 เหมือนไบนารี่
> >ทำดีมากมายขนาดไหนก็เป็นเพียงแค่ 1 หากผิดพลั้งไป จะเหลือเพียง 0
> >> > – เธอแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายไม่ใช่ 0-1 และไม่ใช่ 0-100 แต่เป็นจาก
> >100-200
> >> > หญิงรักชายได้ 100 และจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่เธอปรารถนา

> >> > – ผมมองคนที่ความคิด
> >> > – เธอแย้งว่าความคิดไม่ใช่นิสัย

> >> > ผมเหมือนกับแก้วใส ๆ จะเห็นคุณค่าตัวเองก็ต่อเมื่อมีเธอเป็นน้ำมาเติมเต็ม
> >> > เธอเหมือนกับน้ำใส ๆ เธอจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีภาชนะมารองรับ

> >> > ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกัน
> >> > ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ถึงแม้จะไม่มีวันบรรจบกัน

> >> > แต่เราก็จะตีคู่ไปด้วยกันเสมอ เพราะเธอชอบกินไข่แดง
> >> > แต่ผมชอบกินไข่ขาว
> >> > เราจึงอยู่ด้วยกันได้ ในไข่ใบสีน้ำเงินแห่งนี้

> >> > ความรัก กับ ความผูกพันธ์

> >> > เน! ื้อความ ความรัก..กับ ความผูกพัน
> >> > หน้าตาคล้ายกัน .. เหมือนซ้าย-ขวา
> >> > แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ …
> >> > รู้สึกว่า .. คิดถึง .. แล้วมาหา คือ …. รัก
> >> > รู้สึกว่า .. เคยมาหา .. เลยมาหา คือ .. ผูกพัน
> >> > รู้สึกว่า .. หิว … แต่อยากรอ คือ .. รัก
> >> > รู้สึกว่า .. อิ่มแล้ว .. อยากเอามาฝาก คือ .. ผูกพัน
> >> > รู้สึกว่า .. อยากให้เวลากันและกัน คือ ….. รัก
> >> > รู้สึกว่า .. อยากใช้เวล! าด้วยกัน คือ .. ผูกพัน
> >> > รู้สึกว่า .. หงุดหงิดคือทำให้อีกคนไม่สบายใจ คือ .. รัก
> >> > รู้สึกว่า .. โกรธคือทำให้อีกคนสำนึกบ้าง คือ .. ผูกพัน
> >> > รู้สึกว่า …. ไม่มีนาทีไหนไม่คิดถึง คือ .. รัก
> >> > รู้สึกว่า .. นาทีไหนที่ว่างจะคิดถึง คือ …. ผูกพัน
> >> > ขอบคุณเหลือเกิน …. ความผูกพัน .. ที่ทำให้รัก
> >> > ขอบคุณเหลือเกิน .. รักที่เป็นมากกว่า .. ความผูกพัน
> >> > ———————————————————–

> >> > … เคยไหมรักใครคนหนึ่ง ด้วยยความรู้สึกว่า ….
> >> > เคยผูกพันเหมือนเคยรักกัน แล้วพลัดพราก
> >> > ต้องมาตามหากันเป็นแรมปี
> >> > ถ้าเคยรู้สึกอย่างนี้
> >> > ยามที่มอ! งแววตาใครคนนั้น
> >> > แล้วรู้สึกอยากอยู่ข้าง ๆ
> >> > เพื่อคอยกางแขนปกป้องแ ละดูแลไปตลอดชีวิต
> >> > ความรู้สึกนั้น .. > เรียกว่า รักและผูกพัน
> >> > ความรู้สึกที่ .. มิอาจพรากจากกัน ได้อีก
> >> > แม้เพียงหนึ่งเสี้ยววินาที